Sweet Tooth ซีซัน 2 กลับมาอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานถึง 2 ปี ซีรีส์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนที่เล่าเรื่องราวของกัส เด็กชายครึ่งกวางครึ่งมนุษย์ที่อาศัยอยู่ในป่าหลังการระบาดของไวรัสกวางขาว จนกระทั่งเขาได้พบกับเยปเปอร์ด ชายผู้ที่เคยเป็นทหารมาก่อน และทั้งคู๋ก็ได้ออกเดินทางเพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับตัวตนของกัสว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นใครกันแน่
สำหรับเนื้อหาในซีซันที่สองนี้ ได้เริ่มต้นขึ้นหลังจากที่กัสและเยปเปอร์ดหนีออกจากค่ายทหารของลาสแมนได้สำเร็จ โดยพวกเขาได้มุ่งหน้าไปยังดินแดนแห่งทิวสน สถานที่ที่เหล่าไฮบริดอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข กัสได้พบกับเหล่าไฮบริดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรีเบคก้า เด็กสาวผู้ฉลาดและกล้าหาญ รูบี้ เด็กสาวผู้ร่าเริงและสดใส และลีโอ เด็กชายผู้ลึกลับ กัสและเหล่าไฮบริดได้เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ช่วยกันสร้างชุมชนที่อบอุ่นและปลอดภัย
แต่แล้ววันหนึ่งภัยคุกคามก็มาถึงเมื่อกองทัพของดร.สิงห์ ผู้นำของกลุ่มมนุษย์ผู้ต่อต้านไฮบริด ได้บุกเข้ามาโจมตีชุมชนที่อาศัยอยู่ กัสและเหล่าไฮบริดจึงต้องร่วมมือกันเพื่อปกป้องชุมชนของพวกเขาและได้ออกเดินทางไปยังเมืองใหญ่เพื่อหาทางเอาชนะกองทัพของดร.สิงห์ ระหว่างทาง พวกเขาได้พบกับตัวละครใหม่ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นดร.ซูซาน ผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุศาสตร์ ดร.วอร์เรน หัวหน้าห้องทดลองของดร.สิงห์ และดร.วิลเลียม พ่อของกัส ในท้ายที่สุดก็สามารถเอาชนะกองทัพได้ พวกเขาได้สร้างสันติสุขระหว่างมนุษย์และไฮบริดขึ้นใหม่ แต่สงครามครั้งนี้ได้ทิ้งบาดแผลไว้มากมายและต้องเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตต่อไปในโลกที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงนี้
จุดเด่นของ Sweet Tooth ซีซันนี้ยังคงอยู่ที่เรื่องราวที่เข้มข้นและน่าติดตาม มีประเด็นที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเกี่ยวกับความแตกต่าง ความเท่าเทียม และสันติภาพ ตัวละครที่เอกลักษณ์เพียบ ไม่ว่าจะเป็นกัส เด็กชายครึ่งกวางครึ่งมนุษย์ผู้ไร้เดียงสาและมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ เยปเปอร์ด ชายผู้ที่เคยเป็นทหารมาก่อนแต่กลับกลายเป็นผู้ปกป้องกัส และเหล่าไฮบริดอีกมากมายที่เต็มไปด้วยมิตรภาพที่ดีมากๆ
นอกจากนี้ด้านงานภาพก็ต้องชมเลยว่าสวยงามและตระการตาจริงๆ ฉากต่างๆ ของซีรีส์ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างแฟนตาซี โดยเฉพาะฉากป่าสนอันกว้างใหญ่จนเราเห็นแล้วร้องว้าวมาก หรือฉากเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย และฉากการต่อสู้อันดุเดือด ขณะเดียวกันจุดสังเกตของซีซันนี้คือการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างช้าในช่วงตอนแรกๆ เพราะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการปูพื้นเรื่องราวและแนะนำตัวละครใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามา ทำให้ในช่วงแรกอาจจะทำให้เบื่อจนขี้เกียจดูต่อได้เลย โดยรวมแล้วถือว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์การผจญภัยที่มีเรื่องราวสุดแฟนตาซี ยังคงเป็นซีรีส์ที่สนุกและน่าติดตามสำหรับแฟนๆ ตั้งแต่ซีซั่นแรกแล้ว และถ้าใครยังไม่เคยรับชมมาก่อนก็แนะนำให้ดูซีซั่นแรกซึ่งดีมากๆ เพราะกระแสแรงจนได้ทำต่อในซีซั่นที่สองนี้ โดยรวมแล้วก็ถือว่าเป็นซีรีส์ที่คุ้มค่าแก่การรับชมสนุกไม่เสียเวลาแน่นอน